การประสมวงดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้
ประวัติความเป็นมา
เป็นการละเล่นประกอบดนตรีที่ได้รับการสืบทอดมาแต่โบราณ และนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมาก และถือได้ว่าเป็นวงดนตรีที่เป็นพื้นฐานในการละเล่นอย่างอื่น ๆ เช่น อาไย กะโนบติงต็อง กันตรึม เรือมลูดอันเร และการบรรเลงประกอบพิธีกรรม ตามความเชื่อทางทางไสยศาสตร์ เช่น โจลมาม็วด บ็องบ็อด ประกอบทั้งเป็นการบรรเลงประโคมในพิธีต่าง ๆ ทั้งงานมงคลและงานอวมงคล เป็นต้น
เครื่องดนตรี
วงมโหรีอีสานใต้ หรือที่เรียกกันอย่างสามัญว่า วงมโหรีเขมรนี้ จะประกอบด้วยเครื่องดนตรีดังต่อไปนี้
1. ซอด้วง 1-2 คัน
2. ซอตรัวเอก 1-2 คัน
3. กลองกันตรึม 1-2 ใบ
4. ระนาดเอก 1 ราง
5. พิณ 1 อัน
6. ปี่สไล 1 เลา
7. กลองรำมะนาขนาดใหญ่ 1 ใบ
8. เครื่องประกอบจังหวะ เช่น ฉิ่ง ฉาบ กรับ
เครื่องดนตรีดังกล่าวนี้ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ในการจัดวงบางครั้งอาจจะลดหรือเพิ่มเครื่องดนตรีบางชิ้นได้ เช่น พิณ ระนาด แต่เครื่องอื่นๆ ให้คงไว้
บทขับร้อง
บทขับร้องในการเล่นมโหรี มีจังหวะที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมาก มีลักษณะใหล้เคียงกับการเล่นกันตรึม อาไย และกะโน๊บติงต็อง เพราะการละเล่นเหล่านี้ ใช้วงมโหรีเขมรเป็นหลัก ในการบรรเลงจะมีนักร้องทั้งสองฝ่าย (หญิง – ชาย) ร้องโต้ตอบกัน โดยมีการรำประกอบด้วยเนื้อหาที่ขับร้อง มักเป็นบทเกี้ยวพาราสี บทตลกต่างๆ ตามแบบของการละเล่นพื้นบ้านโดยทั่วๆ ไป
ลักษณะของการบรรเลง
การบรรเลงของวงมโหรีเขมรนี้ จะเริ่มจากบทไหว้ครูก่อนและบรรเลงสลับการขับร้องพร้อมด้วยการร่ายรำต่างๆ ที่สวยงาม ส่วนการจัดพิธีไหว้ครู มีพิธีแบบเดียวกันกับการเล่นกันตรึม หรือเรือมลูดอันเร โดยใช้เครื่องเช่นสังเวยอย่างเดียวกัน
ประวัติความเป็นมา
กันตรึมหรือโจะกันตรึม เป็นดนตรีที่มีความสำคัญและมีบทบาทมากที่สุดแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในปัจจุบันในแถบจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์กำลังเป็นที่นิยม กันตรึมเป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของคนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นพิธีแบบใด ดนตรีกันตรึมถูกนำไปใช้บรรเลงประกอบเสมอ เช่น งานแต่งงาน งานบวชนาค งานศพ หรือทางด้านพิธีกรรมเรียกว่า “ โจลมาม็วด ” ก็ใช้ดนตรีกันตรึมบรรเลงเป็นพื้น เครื่องดนตรีก็มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับงานด้วย
โอกาสที่แสดง
การเล่นกันตรึมนั้นมีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมว่าไพเราะ เข้าถึงจิตใจของผู้ฟังมากกว่าดนตรีประเภทอื่น ๆ กันตรึมจึงสามารถนำไปเล่นในโอกาสทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลหรืองานอวมงคล รวมถึงการบรรเลงประกอบความเชื่อทางไสยศาสตร์ เช่น การโจลมาม็วด (ก่รทรงเจ้าเข้าผี) บ็องบ็อด เป็นต้น กันตรึมนิยมนำไปเล่นในงานมงคล เช่น งานแต่งงาน งานโกนจุก งานสมโภชต่าง ๆ งานกฐิน งานผ้าป่า ฯลฯ โยเฉพาะงานแต่งงานแต่โบราณมาถือว่าขาดกันตรึมมิได้ กันตรึมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบางประการ ทั้งทางเครื่องดนตรีและบทร้อง
เครื่องดนตรี
1. กลองกันตรึม (โทน) 2 ใบ
2. ปี่อ้อ 1 เลา
3. ซอตรัวเอก (ซออู้) 1 คัน
4. ขลุ่ย 1 เลา
5. ฉิ่ง 1 คู่
6. ฉาบ 1 คู่
ประวัติความเป็นมา
ทุ่มโหม่ง ภาษถิ่นเรียกว่า ตึมุง เป็นเครื่องดนตรีที่บรรเลงในงานศพโดยเฉพาะ ที่เรียกว่าทุ่มโหม่งหรือตึมุง เพราะตั้งชื่อตามเสียงกลอง ( ทุ่ม-ตึ ) และเสียงฆ้องหุ่ย ( โหม่ง-มุง )
ลักษณะที่เล่นและโอกาส
ผู้บรรเลงทุ่มโหม่ง จะตั้งเครื่องดนตรีคือ ฆ้องโหม่ง กลองเพล ฆ้องวง ปี่ ใกล้ ๆ กับที่ตั้งศพ และจะเล่นกล่อมศพไปตลอดคืน โอกาสที่เล่น จะบรรเลงตอนตั้งศพบำเพ็ญกุศล และทำบุญ 100 วัน
เครื่องดนตรี
1. ปี่ไฉนชนิดเล็ก 1 เลา
2. กลองเพลขนาดใหญ่ 1 ใบ
3. ฆ้องหุ่ย 1 ลูก
4. ฆ้องวง มีลูก 9 ลูก 1 วง
เป็นเครื่องดนตรีประกอบการรำกระทบสากหรือรำกระทบไม้
เครื่องดนตรี
1. ไม้สาด 2 คู่ คู่หนึ่งใช้รอง อีกคู่หนึ่งใช้เคาะและกระทบเป็นจังหวะ
2. ตะโพน 2 ลูก แต่ปัจจุบันนิยมใช้กลองกันตรึม (โทน) แทน
3. ปี่อ้อ 1 เลา แต่ปัจจุบันนิยมใช้ปี่สไล (ปี่ใน) แทน
4. อาจเพิ่มเครื่องกำกับจังหวะอย่างอื่นอีก เช่น ฉิ่งและกรับ
เป็นการประสมเครื่องดนตรีประกอบการรำแม่มดหรือรำผีฟ้า
เครื่องดนตรี
1. ซอ 1 คัน
2. ปี่อ้อ 1 เลา
3. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
4. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก
5. ตะโพน 1 ลูก
6. ฉิ่ง 1 คู่
7. กรับ 1 คู่
เป็นการประสมวงดนตรีประกอบการระบำกะโน้บติงต๊อง หรือระบำตั๊กแตนตำข้าว
เครื่องดนตรี
1. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก (เดิมใช้กลองทัด)
2. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
3. ซอตรัวเอก ( ซออู้) 1 คัน
4. ฉิ่ง 1 คู่
5. กรับ 1 คู่
เป็นวงเครื่องดนตรีประกอบการเล่นอาไย ( อาไยคือ การเล่นเบ็ดเตล็ดอย่างหนึ่ง ประกอบการเล่นมโหรี )
เครื่องดนตรี
1. ปี่สไล (ปี่ใน) 1 เลา
2. ซอตรัวเอก ( ซออู้) 1 คัน
3. กลองกันตรึม (โทน) 2 ลูก
4. เครื่องกำกับจังหวะคือกรับและฉิ่งอย่างละ 1 คู่
เป็นเครื่องดนตรีประกอบการจเรียง นิยมใช้เครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียว
เครื่องดนตรี
1. เกนหรือเคน ( แคน)
2. ตรัว (ซอ)
3. จเปย ( กระจับปี่)